ชีวิตนักบินอวกาศเวลาต้องอยู่บนสถานีอวกาศเป็นเวลานาน วิธีการปรับตัวต่าง ๆ

เริ่มต้นการทำชาเลนจ์ในการนอนทำงานอยู่ที่บ้าน เรียนอยู่ที่บ้าน ติดอยู่ที่บ้านของมนุษย์โลก ยังมีนักบินอวกาศที่ใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติยาวนานเกือบปี การใช้ชีวิตต่าง ๆ ของเขาไม่ว่าจะกิน นอน ตื่นขึ้นมามันก็คือการทำงาน ทุก ๆ อย่างมันคือการทำงาน และแน่นอนว่าการล่องลอยไปในอวกาศในทุก ๆ วันก็เป็นงานที่ไม่สามารถยื่นใบลาออกได้อีกเช่นกัน

แต่ว่าพวกเขาก็ได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างในระหว่างที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้านบนนั้น และก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะว่าตอนนี้เกือบทุกคนบนโลกกำลังอยู่ในช่วงกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำงานในบ้าน หรือว่าอยู่ในสถานการณ์ปิดเมืองในบางพื้นที่เพื่อหยุดการแพร่กระจายของ COVID-19 ต่อไปนี้ก็จะเป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนักบินอวกาศเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแยกตัวออกจากทุก ๆ คน

ทำตารางการใช้ชีวิต
ต้องบอกว่าบนสถานีอวกาศนานาชาตินั้น จะมีตารางงานของนักบินอวกาศที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนมาก ตั้งแต่เวลาที่พวกเขาตื่นนอนทุก ๆ วินาที พวกเขาต้องทำอะไรบ้าง ต้องไปนอน ต้องไปทำ Spacewalk ที่อาจจะนานถึง 8 ชั่วโมง ตรวจเช็คของ อุปกรณ์ต่าง ๆ เช็คดอกไม้หรือพืชที่ปลูกไว้อยู่ข้างบนนั้น และทำภารกิจต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องทำ

ดังนั้นถ้าเราอาศัยอยู่ในบ้าน ทำงานที่บ้าน หรือกำลังเรียนอยู่ที่บ้านการมีตารางการใช้ชีวิตหรือมีแผนการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ในแต่ละชั่วโมงก็อาจจะช่วยจัดการชีวิตของแต่ละคนในบ้านให้ดีขึ้น อาจจะทำให้เรามีระเบียบวินัยเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากเราสามารถทำตามตารางเวลานั้นได้ดี

ผ่อนคลายตัวเองบ้าง
บนสถานีอวกาศนานาชาติ นักบินอวกาศก็ต้องทำงานในสถานที่เดิม ๆ อยู่ในที่ซ้ำซากจำเจทุกวันตั้งแต่เริ่มจนจบงาน ดังนั้นมันก็อาจจะเกิดความซ้ำซากขึ้นในกระบวนการทำงาน บางครั้งพวกเขาก็ปล่อยให้งานพรากความสุขในชีวิตของพวกเขาออกไป แต่พวกเขาก็พยายามหาอะไรเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตมีสีสัน จัดเวลาสำหรับกิจกรรมเฮฮาปาร์ตี้บนสถานีอวกาศแห่งชาติบ้าง เช่นการดูหนังและกินขนมไปด้วยกัน

นอกจากการจัดเวลาเพื่อความสุขแล้ว พวกเขายังต้องจัดให้มันครอบคลุมไปถึงเวลาในการนอนด้วย จากการเฝ้าสังเกตนักบินอวกาศที่ใช้ชีวิตบนสถานีอวกาศนาน ๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าได้เล็งเห็นว่า เวลาในการนอนสามารถส่งผลต่ออารมณ์และการสร้างปฏิสัมพันธ์ของนักบินอวกาศได้

สรุปคือ ถ้าทำงานอยู่แต่ในบ้านอาจจะเกิดความตึงเครียดหรือความเบื่อเกิดขึ้นมาได้ ก็อยากให้ลองหากิจกรรมยามว่างทำกับครอบครัว อยู่กับครอบครัวดู ลองเข้าครัวทำอาหารด้วยกัน กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา แลกเปลี่ยนความเห็นกันในครอบครัวหรือเล่นเกมด้วยกันก็ได้ ผ่อนคลาย พักผ่อนให้เพียงพอบ้าง สุขภาพจิตเราจะได้แข็งแรงขึ้น

ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง
สิ่งที่นักบินอวกาศคิดถึงมากที่สุดหลังจากที่พวกเขาต้องไปอยู่บนอวกาศมายาวนาน ก็คือการออกไปข้างนอก ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ ใบไม้สีเขียว กลิ่นของละอองฝนที่เพิ่งตกไปเมื่อตอนเช้า และแสงแดดอันอบอุ่นที่สาดเข้ามาในหน้าต่างยามเช้า การที่มีแปลงดอกไม้หรือแปลงผักบนสถานีอวกาศก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยานักบินอวกาศในส่วนนี้ลงไปได้บ้าง หรือบางคนก็เปิดเทปเสียงฟังเสียงนกร้องบนโลก เสียงยุงหรือเสียงของสรรพสิ่งบนโลกเพื่อที่จะได้หายคิดถึงโลกไปได้บ้าง

แต่ถามว่านักบินอวกาศสามารถออกไปข้างนอกได้ไหม คำตอบคือได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัวหลายอย่างมาก ๆ เพราะมันค่อนข้างที่จะอันตรายและต้องใช้เวลานานมากในการเตรียมตัว ดังนั้นมันค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ลำบากมากเลยทีเดียว และจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าสังเกตชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศก็ได้บอกว่า การใช้เวลาไปกับธรรมชาติ การออกไปข้างนอกมีผลดีต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเรา เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย

ดังนั้นออกไปสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้าน ให้ธรรมชาติข่วยเยียวยาสภาพจิตใจดูบ้างนะ

หางานอดิเรกทำยามว่าง
ถ้าคุณจำนักบินอวกาศแคนนาดาคนหนึ่งที่ชื่อว่า Chris Hadfield ที่โด่งดังเรื่อง David Bowie’s Space Oddity นั้นแหละนั้นคืองานอดิเรกชิ้นหนึ่งของนักบินอวกาศตอนอยู่บนสถานีอวกาศแห่งชาติ คนอื่นก็มีงานอดิเรกที่แอบทำ (?) ในเวลาว่างเหมือนกันเช่น ฝึกเล่นเครื่องดนตรีบางชนิด ลองวาดรูปทำงานศิลปะบนอวกาศเป็นต้น

มันก็เป็นการคลายเครียดแบบหนึ่งของนักบินอวกาศเวลาทำงานอยู่ข้างบน ไม่มีอะไรทำ เบื่องาน หรือว่างงานจริง ๆ ก็มาทำงานอดิเรก ดังนั้นหากใครที่อยู่บ้านแล้วว่างจากงานหรือไม่มีอะไรทำ กำลังกักตัวอยู่ ก็ลองหางานอดิเรกทำดูก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก แถมยังได้ฝึกทักษะที่เราชอบ และสนใจอีกด้วย

ฟังผู้เชี่ยวชาญ
การใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติสอนนักบินอวกาศหลายอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียนรู้ในบางสิ่งที่พวกเขาอาจจะรู้ไม่มากพอแต่มันมีประโยชน์ต่อชีวิตของเขา ยกตัวอย่างเช่นศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมบางอย่างที่พวกเขาอาจจะรู้ไม่เท่ากับวิศวกรของนาซ่า พวกเขาก็ต้องถามความคิดเห็นและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อมาปรับและประยุกต์ใช้ในชีวิตบนอวกาศของพวกเขา ศาสตร์ทางด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การออกแบบก็เช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ การเชื่อฟังและถามความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเป็นทางที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตบนโลก เรามีโซเซียลมีเดียมากมาย มีข้อมูลหลากหลายข้อมูลที่เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับไวรัสร้าย แต่เราไม่อาจจะทราบได้เลยว่าข้อมูลชุดไหนเป็นจริงหรือเป็นเท็จ สิ่งที่ดีที่สุดคือป้องกันตัวเองและสอบถามให้ถูกบุคคล รวมถึงพยายามติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้จริง ๆ เช่นถ้าเป็นเรื่อง COVID-19 ก็คือ World Health Organization และ Coronavirus Resource Center.

การแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยมนุษย์เรายังมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ในขณะที่ยังติดอยู่ในบ้าน มนุษย์เรายังพยายามหาหนทางเพื่อช่วยให้เพื่อนร่วมโลกผ่านพ้นวิกฤตไวรัสนี้ไปได้อย่างดีที่สุด พวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่ระบาดของไวรัส

อย่าลืมล้างมือให้บ่อยเท่าที่เป็นไปได้ด้วยนะ ด้วยความเป็นห่วงจากเรา และนักบินอวกาศ

อ้างอิง

I Spent a Year in Space, and I Have Tips on Isolation to Share

เครดิตข่าวโดย: spaceth.co