WHO ชี้ไม่ใช่เวลามายอมแพ้ ! ยอดป่วยโควิดทั่วโลกทะลุแสน มีทั้งข่าวดี-ข่าวร้าย

วันที่ 6 มี.ค. เว็บไซต์ ศูนย์วิศวกรรมและระบบวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย จอห์นส์ ฮอพกินส์ สหรัฐอเมริกา รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มเป็นอย่างน้อย 100,113 คน จาก 90 ประเทศ เป็นผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,404 ราย ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 55,753 คน

จำนวนผู้ป่วยอันดับต้นๆ ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ 80,556 คน เสียชีวิตแล้ว 3,411 คน รักษาหายแล้ว 55,694 คน

เกาหลีใต้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 6,593 คน เสียชีวิตแล้ว 40 คน รักษาหาย 135 คน

อิหร่าน ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4,747 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 124 คน หายแล้ว 913 คน

อิตาลี พบผู้ติดเชื้อ 3,858 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 148 คน หายป่วย 414 คน

สหรัฐอเมริกา พบติดเชื้อเพิ่มเป็น 233 คน เสียชีวิตแล้ว 14 คน รักษาหาย 8 คน

ญี่ปุ่น มีติดเชื้อเพิ่มเป็น 381 คน เสียชีวิตรวม 6 คน หายป่วย 43 คน

บนเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซส ที่เทียบท่าเมืองโยโกฮามา ติดเชื้อ 706 คน เสียชีวิต 6 คน
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า "นี่ไม่ใช่การซักซ้อม เราต้องเตรียมการอย่างรุกกร้าว นี่ไม่ใช่เวลามายอมแพ้ ไม่ใช่เวลามาแก้ตัว มันเป็นเวลาที่ต้องทุ่มทุกสรรพกำลังเพื่อหยุดมัน"

ผอ.ฮู กล่าวด้วยว่า แม้ว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่งกว่าที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้ และอาจลุกลามจนกลายเป็นการระบาดใหญ่ แต่ขณะนี้ก็มีหลายประเทศที่ชี้ให้เห็นว่า ควบคุมโควิด-19ได้

ที่จีน นายติง เซียงหยาง รองเลขาธิการสภาแห่งรัฐ แจ้งว่าใกล้จะยุติการปิดเมืองในมณฑลหูเป่ย หลังจากปิดล้อมมานานเกิน 1 เดือน กระทั่งตอนนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายเมือง

ข่าวดีอีกเรื่องคือ นายเจิ้ง จงเว่ย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนา คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาที่พัฒนาขึ้นบางตัวจะเริ่มใช้ได้ในเดือนเมษายน โดยจะเตรียมกฎหมายและระเบียบวิธีการรองรับไปด้วยกัน

ส่วนข่าวร้ายคือ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1 แสนแล้ว ตลาดหุ้นในยุโรปและอเมริกาพากันร่วงระนาวลงไปอีก เช่นเดียวกันราคาน้ำมันโลก

ขณะที่ เดลีเมล์ รายงานผลการวิจัยชวนระทึกของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ที่พยากรณ์ผลกระทบทั้งโลกจากไวรัสโควิด-19 เมื่อเข้าสู่ขั้นการระบาดใหญ่ หรือ pandemic ในระดับเสียหายน้อยที่สุด ว่า ประชากรโลกจะเสียชีวิตมากถึง 15 ล้านราย ในปีแรกของการระบาด

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ทั่วโลกจะหายไป 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 72 ล้านล้านบาท

เมื่อจำแนกเป็นประเทศ อินเดียและจีนจะมีผู้เสียชีวิตประเทศละหลายล้านราย สหรัฐ 230,000 ราย เยอรมนี 79,000 ราย อังกฤษ 64,000 ราย ฝรั่งเศส 64,000 ราย ส่วนเกาหลีใต้และอิตาลี สองประเทศที่มีการระบาดรุนแรง ผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่หลายหมื่นราย

หากพยากรณ์ผลกระทบทั่วโลกในระดับรุนแรงที่สุด ประชากรโลกจะเสียชีวิตมากกว่า 68 ล้านราย เป็นคนจีน 12 ล้านราย สหรัฐและรัสเซียประเทศละ 1 ล้านราย อังกฤษ 290,000 ราย ฝรั่งเศสและเยอรมนีประเทศละหลายแสนราย ขณะที่จีดีพีทั่วโลกจะหายไป 9.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 289 ล้านล้านบาท

เครดิตข่าวโดย: ข่าวสด