เหยื่อสาวชาวอเมริกันเล่าถึงความลำบากในการอ้อนวอนให้เว็บลามกดังถอดวิดีโอเหตุการณ์ข่มขืนตัวเธอออก

Pornhub: เหยื่อสาวชาวอเมริกันเล่าถึงความลำบากในการอ้อนวอนให้เว็บลามกดังถอดวิดีโอเหตุการณ์ข่มขืนตัวเธอออก - BBCไทย โรส คาเลมบา บอกเล่าความยากลำบากในการพยายามนำวิดีโอที่บันทึกภาพเธอขณะถูกข่มขืน ออกจากเว็บไซต์ลามกชื่อดัง เธอได้รู้ว่ามีผู้คนอีกมากมายที่ประสบปัญหาเดียวกัน

นางพยาบาลหยุดยืนอยู่ตรงประตูห้องคนไข้ของโรส ก่อนจะหันมาหาเธอพร้อมกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า "เสียใจด้วยนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับหนู ลูกสาวของน้าก็ถูกข่มขืนเหมือนกัน"

โรสมองไปยังพยาบาลคนนั้น เธอน่าจะมีอายุไม่เกิน 40 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่า ลูกสาวของเธอคงยังอายุน้อยเหมือนกันกับโรส

โรสในปัจจุบัน

เธอย้อนนึกถึงบทสนทนาเมื่อช่วงเช้าหลังคืนเกิดเหตุ โรสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ประจำคลินิคที่ช่างดูเฉยเมยไร้อารมณ์ความรู้สึก

ทุกคนใช้คำว่า "อ้างว่า" กันหมดเวลาพูดถึงเหตุสะเทือนขวัญในค่ำคืนอันยาวนานที่โรสบรรยายให้ฟัง นอกจากพ่อและย่าของเธอแล้ว ก็ไม่มีญาติคนไหนเชื่อเรื่องเล่าของโรสเลย

โรสบนตักของ รอน คุณพ่อของเธอ

แต่กับพยาบาลคนนี้ มันแตกต่างออกไป โรสบอก "เธอเชื่อฉันค่ะ"

สิ่งนี้เป็นเสมือนประกายแห่งความหวังสำหรับเหยื่ออย่างเธอ แค่ใครสักคนที่เข้าใจและยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ ความสบายใจค่อย ๆ ชะล้างจิตใจของโรส เธอรู้สึกว่าตัวเองสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานหลังจากนี้ ผู้คนจำนวนหลายแสนรายจะได้รับฉากข่มขืนโรสกับตาของตัวเองโดยปราศจากความเห็นอกเห็นใจใด ๆ ทั้งสิ้น

ผ่านไปกว่าสิบปี โรสในวัย 25 ปี กำลังหวีผมสีดำยาวสลวยของตัวเองอยู่หน้ากระจก ก่อนจะใช้นิ้วม้วนปลายผมให้เป็นเกลียวแบบธรรมชาติ

กิจวัตรประจำวันที่ดูง่ายดายเช่นนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เด็ดขาดหลังเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนั้น กระจกทุกบานภายในบ้านของเธอต้องถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าเสมอ เพราะโรสไม่อาจทนเห็นภาพสะท้อนของตัวเองที่ปรากฎในนั้นได้

"คนอื่นกลับบอกว่าฉันแส่หาเรื่องเอง"
เรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ในปี 2009 ขณะนั้นโรสมีอายุเพียง 14 ปี เธอออกไปเดินเล่นคนเดียวก่อนเข้านอนตอนกลางคืนเป็นประจำ เพราะอากาศบริสุทธิ์และความสงบเงียบช่วยให้จิตใจของเธอผ่อนคลาย

ทว่าคืนนี้ ชายคนหนึ่งกลับโผล่ออกมาจากเงามืด คนร้ายใช้มีดขู่บังคับให้เธอก้าวขึ้นไปบนรถยนต์ของเขา บนเบาะหลังมีชายอายุประมาณ 19 ปี ที่โรสเคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนในเมืองนั่งรออยู่แล้ว

คนร้ายบึ่งรถไปยังบ้านหลังหนึ่งแล้วลงมือกระทำชำเราโรสต่อเนื่องยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง โดยมีชายคนที่สามคอยถ่ายวิดีโอบันทึกเหตุการณ์บางส่วนไว้

เด็กสาวตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอแทบหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ นอกจากโดนทุบตีอย่างรุนแรงแล้ว โรสยังถูกแทงเข้าที่ขาข้างซ้ายอีกด้วย เสื้อผ้าของเธอชุ่มโชกไปด้วยเลือด สติสัมปชัญญะของเธอขาดหายเป็นระยะ

หนึ่งในคนร้ายนำโน๊ตบุ๊กออกมาแล้วโชว์คลิปวิดีโอการข่มขืนเด็กสาวคนอื่น ๆ ให้เธอดู "ฉันมีเชื้อสายคนพื้นเมือง" โรสเล่า "พวกนั้นเป็นคนผิวขาว และโครงสร้างอำนาจก็ชัดเจน ในขณะที่เหยื่อจำนวนหนึ่งผิวขาว แต่เด็กสาวอีกมากเป็นคนผิวสีค่ะ"

หลังจากความโหดร้ายจบลง ชายกลุ่มนี้ก็ขู่ว่าจะฆ่าเธอทิ้งซะ โรสพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่เพื่อเจรจากับคนร้าย เธอต่อรองว่าหากพวกมันยอมปล่อยตัวเธอไป เธอจะไม่บอกใคร เธอจะไม่เปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของทุกคน

ท้ายที่สุด คนร้ายนำตัวโรสกลับขึ้นรถแล้วตัดสินใจทิ้งเธอไว้ข้างถนน โรสต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวครึ่งชั่วโมงเพื่อกลับบ้านที่เธอจากมา

เมื่อถึงที่หมายก็เกือบถึงเวลามื้อกลางวันของครอบครัวพอดี รอน พ่อของเธอ และสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านกำลังอยู่ในห้องนั่งเล่น โรสพาตัวเองที่ยังคงเลือดไหลไม่หยุดจากแผลที่ขาเข้าไปข้างในแล้วอธิบายสิ่งทีเกิดขึ้นเมื่อคืน

"พ่อของฉันโทรศัพท์หาตำรวจเลยค่ะ เขาเข้ามาปลอบฉันทันที แต่คนอื่นกลับบอกว่าฉันแส่หาเรื่องใส่ตัวเพราะออกไปเดินนอกบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ เอง"

ณ โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจชายและนายแพทย์เข้ามาทักทายโรส โดยทั้งคู่พูดคุยกับเธออย่างเลือดเย็น "มันไม่มีซึ่งความอบอุ่นหรือความเห็นใจใด ๆ เลยค่ะ"

เจ้าหน้าที่ตำรวจถามโรสว่า เรื่องครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสมยอมหรือเปล่า เขาสงสัยว่าเธอแค่ออกไปเที่ยวเล่นปล่อยตัวตอนกลางคืนใช่มั้ย

โรสหน้าชาทันที "คือฉันโดนทำร้ายจนสลบ โดนแทงจนเลือดท่วมนะคะ"

อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเธอทำได้เพียงตอบปฏิเสธไปว่าเธอไม่ได้ยินยอม และด้วยความสับสนกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอบอกพวกเขาด้วยว่าเธอไม่รู้จักคนร้าย ตำรวจจึงไม่มีเบาะแสให้สืบสวนต่อ

วันต่อมาหลังโรสได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ เธอพยายามฆ่าตัวตายเพราะมองไม่เห็นหนทางที่จะมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุขได้อีกต่อไป แต่พี่ชายของเธอเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา

"พวกเขามีความสุขบนการที่ฉันถูกย่ำยีหรือเปล่า"
หลายเดือนต่อมา โรสสำรวจ มายสเปซ (MySpace) สังคมออนไลน์ชื่อดัง แล้วพบว่าเพื่อน ๆ หลายคนในโรงเรียนกำลังแชร์ลิงค์ของเว็บไซต์หนึ่งอยู่ ชื่อของเธอถูกแท็กด้วย เมื่อโรสลองคลิกเข้าไป พอร์บฮับ (Pornhub) เว็บไซต์สื่อลามกอันดับต้น ๆ ของโลกก็ปรากฎบนหน้าจอ

ทันใดนั้น อาการคลื่นไส้ก็เข้าจู่โจมเธอทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ข่มขืนในคืนนั้น "มันชื่อเรื่องว่า 'วัยรุ่นร้องไห้แถมโดนตบไม่ยั้ง' 'วัยรุ่นโดนกระทำชำเรา' 'วัยรุ่นสลบไม่ได้สติ' บางอันมียอดเข้าชมกว่าสี่แสนครั้งเลยค่ะ"

โรสตัดสินใจได้ทันทีว่าเธอจะไม่บอกครอบครัวเกี่ยวกับวิดีโอเหล่านี้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คอยให้กำลังใจเธออยู่แล้ว

หลังจากนั้นไม่กี่วัน การณ์ก็ปรากฎแน่ชัดว่า เพื่อนร่วมโรงเรียนได้ดูวิดีโอพวกนั้นกันเป็นวงกว้างเสียแล้ว โรสเล่าว่า "ฉันโดนรังแกค่ะ คนอื่นมองว่าฉันอยากโดนเอง ฉันเป็นฝ่ายอ่อยผู้ชายเอง หาว่าฉันเป็นอีตัว"

ภาพของโรสเมื่อสมัยเด็ก ๆ

เพื่อนผู้ชายบางคนบอกว่า ผู้ปกครองของพวกเขาสั่งห้ามไม่ให้เฉียดกรายเข้าไปใกล้เธอ เพราะกลัวว่าโรสจะยั่วยวนให้ลูกตกหลุมพรางแล้วอ้างว่าถูกข่มขืนในภายหลัง

"ฉันส่งอีเมลไปขอร้องอ้อนวอนกับทางพอร์นฮับด้วยค่ะ" โรสบอก "ฉันเขียนว่า 'ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันเป็นผู้เสียหาย นี่คือการล่วงละเมิด โปรดเอาวิดีโอออกจากเว็บด้วยค่ะ' " แต่แม้ว่าเธอส่งอีเมลไปหลายครั้งเป็นเวลานานกว่าหกเดือน พอร์นฮับไม่เคยตอบกลับ และวิดีโอเหล่านั้นก็ไม่ได้หายไป

"ปีต่อมาฉันก็จมอยู่แต่กับตัวเองค่ะ ฉันตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย" โรสเล่า "ฉันไม่รู้สึกถึงอะไรสักอย่าง มันชาชินไปหมด ฉันไม่เข้าไปยุ่งกับใครเลยค่ะ"

ไม่ว่าคนแปลกหน้าคนไหนจะสบตาด้วย เธอมักจะนึกสงสัยเสมอว่า พวกเขาได้ดูวิดีโอเหล่านั้นแล้วหรือเปล่า "พวกเขาจะใช้มันให้เสร็จสมอารมณ์หมาย หรือว่าพวกเขามีความสุขอยู่บนการที่ฉันถูกย่ำยีหรือเปล่า"

โรสแทบจะทนมองตัวเองไม่ได้ เธอจึงนำผ้ามาคลุมกระจกทุกบานไว้ แปรงฟันและล้างหน้าท่ามกลางความมืดพลางคิดอยู่ตลอดเวลาว่าใครกำลังรับชมวิดีโอพวกนั้นอยู่บ้าง

จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอก็นึกแผนการใหม่ออก โรสจัดการสมัครอีเมลใหม่ แกล้งทำตัวเป็นทนาย แล้วส่งข้อความไปยังพอร์นฮับโดยขู่ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย

"ภายใน 48 ชั่วโมง คลิปทุกอันก็หายวับไปเลยค่ะ"

หลายเดือนต่อมา โรสก็เริ่มเข้ารับการบำบัด และเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวตนของคนที่กระทำชำเราเธอให้นักจิตวิทยาฟัง จนนำไปสู่การจับกุมตัวอาชญากรในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทนายความฝั่งจำเลยโต้แย้งว่าโรสยินยอมพร้อมใจมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นคนร้ายจึงลอยนวลในข้อหาข่มขืนและโดนโทษสถานเบาของกฎหมายผู้เยาว์เท่านั้น โดยโรสและครอบครัวเองก็ปราศจากทั้งเวลาและกำลังทรัพย์เพื่อสู้คดีต่อไปเช่นกัน

ชะตากรรมเดียวกัน
งานอดิเรกอย่างหนึ่งของโรสหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ผ่านพ้นไปคือการเขียนบล็อกบอกเล่าความรู้สึกและเรื่องราวของตัวเองลงบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย โดยใช้นามปากกาทั้งชื่อปลอมและชื่อจริง

วันหนึ่งในปี 2019 โรสบังเอิญเห็นข้อความจำนวนหนึ่งบนโซเชียลมีเดียที่กำลังสรรเสริญชื่นชมพอร์นฮับ เนื่องจากบริษัทสื่อลามกชื่อดังได้บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลเพื่ออนุรักษ์ผึ้ง ใส่คำบรรยายใต้คลิปสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน หรือมอบทุนการศึกษาเกือบแปดแสนบาทให้ผู้หญิงที่ต้องการทำงานในแวดวงเทคโนโลยี

สถิติผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวในปีที่แล้วสูงถึง 4.2 หมื่นล้านครั้ง เพิ่มจากปี 2018 ราว 8.5 พันล้านครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวันจะมีผู้เข้าชม 115 ล้านครั้ง และมีการค้นหา 1,200 ครั้งต่อวินาที

"ถ้าคุณใช้โซเชียลมีเดียมันก็แทบจะเป็นไม่ได้เลยค่ะที่จะไม่เห็นพอร์นฮับ" โรสกล่าว "เขาเก่งมากค่ะในเรื่องการทำให้บริษัทดูเหมือนใส่ใจประเด็นทางสังคม แทบจะเหมือนคลิปโป๊จากสวรรค์ลงมาโปรดอยู่แล้ว แต่วิดีโอที่มีชื่อเรื่องแบบเดียวกับของฉันกลับยังคงอยู่บนเว็บได้ เราไม่มีทางรู้เลยนะคะว่าในนั้นจะมีการข่มขืนรึเปล่า และเหยื่อไม่รู้ตัวด้วย"

เรื่องราวในบล็อกเกี่ยวกับประสบการณ์ฝังใจของโรสได้รับความสนใจจากผู้คนบนอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก โดยนอกจากจะเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับการถูกข่มขืนแล้ว โรสยังประณามพอร์นฮับที่เคยทำเฉยเมยต่อวิดีโอเหล่านั้นจนเธอต้องแสร้งเป็นทนาย

ผู้หญิงหลายคนและผู้ชายจำนวนหนึ่งตอบกลับเรื่องราวของโรสว่า คลิปที่บันทึกเหตุภาพขณะพวกเขากำลังถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้นก็ปรากฎอยู่บนเว็บไซต์พอร์นฮับเช่นกัน

พอร์นฮับว่าอย่างไร
เว็บไซต์พอร์นฮับอธิบายกับบีบีซีว่า "ข้อกล่าวหาอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี. 2009 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลายปีก่อนหน้าที่บริษัทจะตกอยู่ในมือเจ้าของกิจการคนปัจจุบัน ดังนั้นเราจึงไม่มีข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการจัดการอย่างไร ทั้งนี้ ตั้งแต่พอร์นฮับปลี่ยนมือผู้บริหาร ทางบริษัทได้วางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดสูงสุดรวมถึงนโยบายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับเนื้อหาที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและผิดกฎหมายตามคำมั่นของเราที่กล่าวว่าจะต่อต้านเนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์

บริษัทได้ใช้ โวไบล์ (Vobile) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตรวจสอบเนื้อหา เมื่อวิดีโอใหม่ถูกอัปโหลด ซอฟต์แวร์นี้สามารถสแกนได้ว่ามีความสอดคล้องกับเนื้อหาที่ผิดกฎหรือไม่ และจะไม่นำวิดีโอเหล่านั้นกลับเข้าสู่เว็บไซต์อีก"

เมื่อบีบีซีสอบถามว่า เหตุใดจึงยังคงปรากฎวิดีโอที่มีชื่อเรื่องคล้ายกับของโรส เช่น "วัยรุ่นโดนข่มขืนตอนหลับ" "วัยรุ่นเมาเหล้าโดนละเมิดตอนหลับ" หรือ "วัยรุ่นโดนล่วงละเมิดขั้นสุด" อยู่บนเว็บไซต์ พอร์นฮับชี้แจงว่า

"ทางบริษัทอนุญาตให้มีการแสดงออกทางเพศทุกรูปแบบตามข้อกำหนดในการให้บริการ บางคนอาจมองว่าจินตนาการประเภทนี้นั้นไม่เหมาะสม แต่เนื้อหาเหล่านี้ยังน่าดึงดูดสำหรับผู้คนอีกจำนวนมากทั่วโลกซึ่งได้รับการคุ้มครองเสรีภาพในการพูดโดยกฎหมายหลากหลายฉบับ"

เมื่อปี 2015 พอร์นฮับติดตั้ง "ระบบกำจัดเนื้อหาที่เป็นการละเมิดความยินยอม" อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกระทำชำเราก็ยังคงปรากฎอยู่บนเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2019 ชายชาวอเมริกันอายุ 30 ปี ถูกฟ้องร้องข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 15 ปี โดยวิดีโอที่บันทึกภาพขณะก่อเหตุกลับถูกอัปโหลดพอร์นฮับด้วย

พอร์นฮับกล่าวว่า นโยบาย คือ "บริษัทจะดำเนินการลบเนื้อหาออกอย่างรวดเร็วที่สุดหลังจากได้รับทราบถึงวิดีโอดังกล่าว ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราปฏิบัติต่อกรณีนี้เช่นกัน"

นอกจากนี้ เมื่อปีเดียวกัน พอร์นฮับได้ลบช่อง "Girls Do Porn" ออกจากแพลต์ฟอร์ม หลังผู้หญิง 22 คน ร่วมกันแจ้งความว่าถูกบังคับให้ร่วมถ่ายทำวิดีโอโป๊ เจ้าของช่องดังกล่าวถูกตั้งข้อหาฐานค้าบริการทางเพศเช่นกัน

"บางคนอาจบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อสิบปีก่อนมันเอามาเทียบกับปัจจุบันไม่ได้ แต่ฉันว่านั่นไม่จริงเลยค่ะ" โรสกล่าว "ผู้หญิงหลายคนยังเล่าให้ฉันฟังว่าอยู่เลยค่ะว่าพบเจอเรื่องพวกนี้ หลังจากที่พวกเธออ่านบล็อกของฉัน แล้วนี่คือชาวตะวันตกที่สามารถเข้าถึงโซเชี่ยลมีเดียนะคะ"

"ฉันไม่แปลกใจเลยค่ะว่า คลิปวิดีโอในอีกฟากหนึ่งของโลก ที่ที่เราก็รู้กันดีว่าเสพสื่อลามกเยอะมากอย่างแถวตะวันออกกลางหรือเอเชีย ตัวเหยื่อเองอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์การล่วงละเมิดทางเพศของตัวกำลังถูกแชร์ออกไป"

"สิ่งที่เกิดขึ้นกับโรสเมื่อปี 2009 ยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบันบนเว็บไซต์ลามกฟรีมากมายค่ะ ไม่ใช่เฉพาะพอร์นฮับ" เคท ไอแซค กล่าว เธอเป็นสมาชิกกลุ่ม Not Your Porn ที่คอยตรวจสอบเว็บไซต์เหล่านี้

"เราทำอะไรกับพวกเว็บขนาดเล็กไม่ได้ค่ะ แต่ว่าบริษัทขนาดใหญ่อย่างพอร์นฮับต้องถูกควบคุมด้วย ซึ่งขณะนี้มันยังไม่เกิดขึ้นค่ะ ไม่มีกฎหมายไหนบังคับใช้กับพวกเขาเลย" เคทกล่าว

เคทก่อตั้งกลุ่ม Not Your Porn ขึ้น หลังคลิปวิดีโอโป๊ที่มีภาพเพื่อนของเธอในวัย 16 ปี ถูกอัปโหลดขึ้นสู่พอร์นฮับ นอกจากนี้ เธอยังเล่าว่า ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา มีผู้หญิงกว่า 50 คน ในอังกฤษติดต่อมาว่า วิดีโอการร่วมเพศของพวกเธอไปปรากฎอยู่บนเว็บไซต์สื่อลามกโดยปราศจากความยินยอม 30 กรณีในนั้น คือ เว็บไซต์พอร์นฮับ

ROSE KALEMBA

คำบรรยายภาพ

"อาวุธที่มีอำนาจรุนแรงมากที่สุดของพวกอาชญากรข่มขืนก็คือความนิ่งเฉยของเราค่ะ"

สื่อลากมกเพื่อการแก้แค้น หรือ Revenge Pornography เช่นนี้ ถูกระบุให้เป็นอาชญากรรมในสหราชอาณาจักรและเวลล์ตั้งแต่เมื่อปี 2015 โดยระบุโทษจำคุกอย่างน้อยสองปี แต่กฎหมายนี้ยังไม่บังคับใช้กับเว็บไซต์และสื่อต่าง ๆ ที่แชร์เนื้อหาดังกล่าว

นอกจากนี้ เคทยังชี้ว่า พอร์นฮับอนุญาตให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดวิดีโอเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของตัวเองได้ ดังนั้นแม้ว่าคลิปจะถูกนำออกจากเว็บไซต์หนึ่ง แต่ก็สามารถไปปรากฎบนอีกเว็บไซต์หนึ่งได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

สำหรับโรสเอง เธอยังคงมีความหวัง เมื่ออายุได้ประมาณ 20 ปี เธอพบกับ โรเบิร์ต แฟนหนุ่มผู้ช่วยเหลือให้เธอข้ามผ่านประสบการณ์การถูกล่วงละเมิดมาได้ โรสหวังว่าพวกเขาจะได้แต่งงานและมีลูกสาวด้วยกันในอนาคต นอกจากนี้ เบลลา สุนัขพันธุ์พิทบูลยังเป็นแรงใจให้เธออีกด้วย

"ฉันเติบโตมากับพิทบูลค่ะ พวกมันอาจจะเป็นโดนหาว่ามีนิสัยดุร้ายนะคะ แต่จริง ๆ แล้วมันอ่อนหวานขี้อ้อนมาก" โรสกล่าว "พวกมันจะดุร้ายเฉพาะเวลาโดนมนุษย์ข่มเหงรังแกเท่านั้นค่ะ"

"ในแง่หนึ่ง ฉันเหมือนคนโดนโทษตลอดชีวิต เพราะตอนนี้เวลาฉันไปร้านสะดวกซื้อ ฉันก็ยังนึกกังวลอยู่ว่าคนแปลกหน้าพวกนั้นเคยดูวิดีโอที่มีฉันอยู่ในนั้นรึเปล่า"

แต่เธอไม่อยากยอมจำนนนอยู่อย่างเงียบ ๆ อีกต่อไปแล้ว โรสกล่าวว่า "อาวุธที่มีอำนาจรุนแรงมากที่สุดของพวกอาชญากรข่มขืนก็คือความนิ่งเฉยของเรา"

เครดิตข่าวโดย: khaosod
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า