พิสูจน์บ้านยายหลังค่อม ถูกรถเมล์ ปอ.40 ขับหนี ชาวบ้านยันคนดี งงโซเชียลแฉแกล้งล้มตบทรัพย์

จากกรณีชาวเน็ตแห่แชร์ภาพคุณยาย พยายามเดินขึ้นรถเมล์ให้ทัน แต่ด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เดินได้ช้า แต่รถเมล์กลับไม่ยอมรอแม้ว่าจะมีคนพยายาม จากกรณีชาวเน็ตแห่แชร์ภาพคุณยาย พยายามเดินขึ้นรถเมล์ให้ทัน แต่ด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เดินได้ช้า แต่รถเมล์กลับไม่ยอมรอแม้ว่าจะมีคนพยายามช่วยโบกให้รถเมล์หยุดรอแล้วก็ตาม โดยพบว่า มีคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ระบุว่า สาเหตุที่รถไม่รับเพราะยายแกล้งล้ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย

วันที่ 28 ก.พ.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นายนาวิน เสนาะดนตรี ผู้จัดการบ.สมาร์ทบัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของรถประจำทางสาย 40 เปิดเผยว่า หลังจากที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และมีโพสต์บนสังคมออนไลน์พูดถึงจำนวนมาก จึงได้ทำการเรียกสอบพนักงานคนขับคนคันดังกล่าว และพนักงานคนขับรถนั้นยอมรับผิดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

โดยอธิบายว่า ขณะที่รถขับมาจอดรับผู้โดยสารที่ป้ายรถ ไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณยาย แต่เมื่อรถเคลื่อนออกจากป้ายมองผ่านกระจกหลัง จึงรู้ว่ายังรับผู้โดยสารไม่ครบ แต่ก็ไม่สามารถจอดรถได้ จึงไม่ได้จอดรับคุณยาย เบื้องต้น ทางกรมขนส่งทางบก ได้เรียกคนขับรถไปสอบและมีบทลงโทษคือการปรับเงิน และให้คนขับเข้ารับการอบรมกับทางกรมขนส่งทางบก

อีกทั้งทางบริษัทก็ได้ลงโทษคนขับพร้อมทั้งปรับเงินและสั่งพักงาน โดยในระหว่างที่ทำการพักงาน จะให้พนักงานคนดังกล่าวเข้าอบรมการปฏิบัติตัวต่อผู้โดยสารในทุกแบบ เพื่อปรับทัศนคติของพนักงาน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ทางบริษัทยังขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน นายมงคล สอแจ่มจิตต์ หรือ ท็อป อายุ 26 ปี เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า ตนได้เจอคุณยายที่ห้างสยามพารากอน ในช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ซึ่งพนักงานต้อนรับกำลังเดินไปส่งคุณยายที่ป้ายรถเมล์หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ตนที่จะต้องไปรอรถเมล์อยู่แล้วก็เดินตามไป สังเกตเห็นว่าคุณยายมีอาการอ่อนเพลีย และนั่งหลับที่ป้ายรถเมล์ ตนจึงเข้าไปคุยและอาสาช่วยโบกรถเมล์ให้

จนผ่านไป 1 ชั่วโมง ในเวลา 19.30 น. เมื่อรถเมล์มาถึง ตนก็ไปปลุกคุณยาย แต่รถเมล์กลับขับเลยป้านไปประมาณ 2 เมตร ตนจึงใช้มือข้างหนึ่งจับราวประตู และใช้อีกมือหนึ่งผายรอคุณยายขึ้นรถ แต่กลับถูกปิดประตูใส่ คุณยายเลยกลับไปนั่งรอต่อ จนเวลาประมาณ 20.00 น. รถเมล์คันที่สองก็มา ตนจึงขึ้นไปหาที่นั่งให้คุณยาย

ขณะที่ นายศักดิวัฒน์ อายุ 36 ปี วินรถจักรยายนต์บริเวณใกล้เคียงบ้านคุณยาย เปิดเผยว่า ตนขี่รถรับจ้างอยู่ภายในซอยมาประมาณ 5 ปี ซึ่งช่วงเช้าจะพบยายตลอด และมักจะแวะรับไปส่งที่บริเวณหน้าเมเจอร์เอกมัย ทุกครั้ง โดยไม่เก็บค่าโดยสารแต่อย่างใด โดยยายเคยเล่าเรื่องราวให้ตนฟังว่า เมื่อก่อนยายอยู่กับลุงเพียง 2 คน แต่ตอนนี้ลุงเสียชีวิต ซึ่งตนไม่ทราบว่ายายมีลูกหลานหรือไม่

ทั้งนี้ความเป็นอยู่ของยายค่อนข้างที่จะลำบาก เนื่องจากอยู่ด้วยตัวคนเดียว และด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง ไปไหนมาไหนก็ต้องใช้ไม้เท้ายันพยุงร่างกาย อาจจะทำให้การใช้ชีวิตของยายลำบากมากขึ้น ซึ่งตนเคยเตือนยายหลายครั้งในเรื่องของการเดินทางที่ไปไหนมาไหนอยู่คนเดียว เกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่ยายบอกว่าเป็นความเคยชิน

ส่วนความเป็นอยู่นั้น ยายอาศัยค่าใช้จ่ายจากเบี้ยคนชรา และเท่าที่รู้จัก ยายเป็นใจดี และอัธยาศัยดี อีกทั้งยังเป็นคนที่ใจบุญอีกด้วย เพราะยายเลี้ยวสุนัขและแมวทั้งที่อยู่บ้านคนเดียว ส่วนกระแสข่าวที่มีคนโจมตีว่า ยายแกล้งล้มเพื่อเรียกเงินนั้น ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม อยากขอความกรุณาให้หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะยายน่าสงสารจริง ๆ

เครดิตข่าวโดย: Amarin TV
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า