เกษตรกรยิ้มออก “ฟ้าทะลายโจร” ขายดี ราคาแพงจากเดิม 3 เท่า

กลุ่มสมุนไพรชีววิถี เร่งปลูกต้นฟ้าทะลายโจร หลังมีการวิจับพบสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ ส่งผลสมุนไพรฟ้าทะลายโจรขายดีทั้งแบบสดและแปรรูป ราคาแพงขึ้น 3 เท่าตัว จากเดิมกิโลกรัมละ 200 บาท ขึ้นราคาเป็นกิโลกรัมละ 650 บาท

วันที่ 20 เม.ย. 2563 ชาวบ้านกลุ่มสมุนไพรชีววิถี บ้านคลองปลากั้ง ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เร่งผลิตยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หลังกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเปิดเผยผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโควิด-19 ว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค โดยที่ยังไม่มีอาการเพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (flu-like symptoms)

ส่งผลให้สมุนไพรฟ้าทลายโจรกลุ่มสมุนไพรชีววิถีขายดีเป็นพิเศษและมีราคาแพงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 200 บาท ปัจจุบันขายในราคากิโลกรัมละ 650 บาท

นายสมศักดิ์ มากด่านกลาง อายุ 46 ปี เกษตรกร เปิดเผยว่า มีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งซื้อสมุนไพรฟ้าทลายโจรจำนวนมาก สั่งซื้อทุกวันจนไม่สามารถผลิตส่งขายได้ทัน ต้องไปหาซื้อจากชาวบ้านที่เริ่มหันมาปลูกฟ้าทะลายโจรขายเพื่อสร้างรายได้ช่วงวิกฤตโควิด-19 ส่งผลฟ้าทะลายโจรราคาแพงขึ้น 3 เท่าตัว และมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นอีก ส่งผลดีต่อเกษตรกร ทำให้มีรายได้เฉลี่ยสัปดาห์ละ 10,000 บาท

ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขโดย นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรมการแพทย์แผนไทยฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรมว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรคโดยที่ยังไม่มีอาการ เพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (flu-like symptoms) ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่น รับประทานครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 1,500 มิลลิกรัม) หลังอาหารและก่อนนอน

ส่วนสารสกัดฟ้าทะลายโจร ครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 20 มิลลิกรัม/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร การรับประทานยาทั้งสองแบบในขนาดที่แนะนำจะให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 60 มิลลิกรัม/วัน แนะนำให้มียาฟ้าทะลายโจรเป็นยาประจำตัว/ประจำบ้าน อาจใช้ร่วมกับยาพาราเซตามอลได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์

สำหรับความคืบหน้าการทดลองในคน กรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และองค์การเภสัชกรรม ศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ระดับความรุนแรงน้อย ในระหว่างเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563 รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่ 65 ไร่ ให้ได้วัตถุดิบ 50,000 กิโลกรัม สำรองไว้ 1 ล้านแคปซูลสำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลรักษาผู้ป่วย และประสานภาคธุรกิจเตรียมการผลิตเพิ่ม

นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก ให้หยุดใช้ยาทันทีและไม่ใช้อีก รวมทั้งควรระวังในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้แขนขาชา หรืออ่อนแรง สอบถามรายละเอียดที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ โทร. 0 2149 5678 หรือเว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th

เครดิตข่าวโดย: workpointnews
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า