อนาถใจประเทศไทย หมอต้องซักหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง

จากกรณีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน

นายอุตตม กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการชุดที่ 1 ลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการให้เงินแก่ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผ่านระบบอีเพย์เมนต์ จำนวนคนละ 2,000 บาท โดยจะให้เป็นเวลา 2 เดือน จ่ายเดือนละ 1,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. และ พ.ค. นี้

ขณะที่มาตรการอย่างอื่นจะมี 2 ด้าน คือ มาตรการด้านการเงิน และมาตรการด้านภาษี โดยมาตรการด้านการเงิน จะมี 4 เรื่อง ประกอบด้วย
1. สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) โดยธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% เพื่อให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2%
2.การปรับโครงสร้างหนี้ โดยให้สถาบันการเงินพักชำระเงินต้น ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ
3. การปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) และเป็นเอ็นพีแอล โดยจะให้มีการยืดเวลาชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายเวลาการกู้เงินให้เป็นระยะเวลายาวมากขึ้น รวมถึงลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการนี้จะครอบคลุมทั้งลูกหนี้รายใหญ่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต ให้ผ่อนขั้นต่ำน้อยกว่า 10%
4. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของสำนักงานประกันสังคม จะให้นายจ้างและลูกจ้างกู้ได้ เพื่อบรรเทาภาระและเป็นเงินทุนเวียน โดยหลังจากนี้สำนักงานประกันสังคมจะกลับไปพิจารณาหลักการดำเนินงาน

สำหรับมาตรการด้านภาษี ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่
1. มาตรการลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับผู้ประกอบการเป็นการชั่วคราว เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ
2. ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กู้เงินซอฟท์โลน และผู้ประกอบการที่ทำบัญชีเดียว ให้สามารถนำภาระดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวมาคำนวณเป็นรายจ่ายหักลดหย่อนภาษีได้
3.ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จ้างงานลูกจ้างต่อโดยไม่ให้ตกงาน ให้นำรายจ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า ในช่วง 1 เม.ย. - 31 ก.ค. 2563 และมาตราการที่
4.ให้กระทรวงการคลังเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศให้เร็วขึ้น ไม่เกิน 15 วัน สำหรับผู้ประกอบการที่ยื่นแบบผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และไม่เกิน 45 วันสำหรับผู้ประกอบการที่ยื่นแบบปกติ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ อีก ประกอบด้วย
1. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาลดค่าธรรมเนียมและผลตอบแทนให้กับภาคเอกชนที่เช่าพื้นที่ราชพัสดุ
2. บรรเทาภาระค่าน้ำค่าไฟ โดยเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด
3. ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง
4. เร่งการใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 ให้รวดเร็วขึ้น
5. มาตรการช่วยเหลือตลาดทุน โดยการขยายวงเงินการซื อหน่วยลงทุนกองทุนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) วงเงินพิเศษ จากเดิมอยู่ที่ 2 แสนบาท โดยวงเงินใหม่จะต้องซื้อภายใน มิ.ย. 2563 และต้องซื้อกองทุน SSF ที่ลงทุนในหุ้นไม่ต่ำกว่า 65%

ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ยังต้องรอผลสรุปอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์ต่อไป

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า ขณะนี้กำลังพิจารณากันว่าจะแจกเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 กันอย่างไร ต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบ รายได้เป็นอย่างไร มีกลุ่มใดบ้างและเงินรายได้นั้นมาจากไหน

โดยจะให้เงินช่วยเหลือในระยะเวลา 2 เดือน ถือเป็นการช่วยเหลือชั่วคราว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นทั้งในภาคประชาชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มาตรการทางภาษีและการเงินการคลังต่างๆ ซึ่งจะมีอีกหลายมาตรการที่จะตอบรับตรงนี้ ที่ต้องเตรียมความพร้อมไว้ และต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือมาตรการเร่งด่วนและอะไรคือมาตรการชั่วคราว 2 เดือน และบางส่วนก็อยู่ในการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการบริหารภายในกรม กองต่างๆ ก็จะเอามาเสริมในตรงนี้ และนี่เป็นเพียงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีมาตรการรองรับอีกอย่างหนึ่งคือ ในเรื่องของภัยแล้งว่าอะไรที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมก็ต้องพิจารณาโดยรวมทั้งหมด

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการให้เงินประชาชนนั้น ถ้าเราดูต่างประเทศก็ทำเช่นนี้ แต่เราคงไม่ทำมากขนาดนั้น สิ่งที่เราทำวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ต้องมีการขึ้นบัญชีและมีการขึ้นทะเบียนใหม่ไปถึงประชาชนกลุ่มอื่นๆ ด้วย มีหลายอย่าง ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วยและต้องทำให้ครบถ้วน มากบ้างน้อยบ้างก็ต้องยอมรับ เพราะในช่วง 2 เดือนนี้มันคือปัญหา ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยววันนี้ก็มีข้อมูลมากพอสมควรที่ลดลงไป เราก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการบ้าง ส่วนหนึ่งก็ต้องช่วยเหลือในเรื่องของการจัดการประชุมตามโรงแรมต่างๆที่มีรายได้ลดลง ในเรื่องการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน) ก็จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่แล้ว

"ขอให้แยกแยะให้ออก ถ้าโจมตีทุกเรื่องมันก็ไปกันไม่ได้ ขอให้เข้าใจมาตรการระยะสั้นแค่ 2 เดือนเอง ไม่ใช่แจกไปเรื่อยเปื่อย และไม่ใช่ว่ารัฐบาลนี้ดีแต่แจกเงิน ช่วงนี้เราต้องเห็นใจผู้มีรายได้น้อยด้วย เพราะเขาไม่มีรายได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการข้างล่างผู้ค้าขาย ร้านเล็กๆ ที่ขายอาหารต่างๆ กลุ่มพวกนี้ เราต้องดูอีกส่วนนอกเหนือจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"

ล่าสุด เพจ แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ข้อความระบุว่า นี่คือภาพหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งของโรงพยาบาลหนึ่งในประเทศไทย ที่มันขาดแคลนจัด จนเจ้าหน้าที่ต้องเอามาซักแล้วตากใช้ มันอุบาทว์แค่ไหนก็ขอให้คิดเอง แต่รัฐบาลเลือกที่จะแจกเงินคนจน แทนที่จะโฟกัสเรื่องกระจายหน้ากากอนามัยไปตามโรงพยาบาลต่างๆ แสนล้านนี่กูบอกเลย หน้ากาก Supreme ก็ยังซื้อได้ พวกมึงก็รู้ ถ้ากูไม่สุดจริง กูไม่โพสต์เรื่องการเมือง เปิดเพจมาสามปีกว่า นี่คือครั้งแรกที่แตะ เพราะผนงรจตกม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

เครดิตข่าวโดย: tnews
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า