ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | อนาคตที่ไม่มีอนาคตของระบอบประยุทธ์และคสช.

การชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอก ประสบความสำเร็จจนหลังจากนั้นยังไม่พบใครที่วิจารณ์กลุ่มปลกแอกจนรับฟังได้แม้แต่กลุ่มเดียว และถึงแม้คนที่โจมตีกลุ่มปลดแอกจะเดินหน้าด่าทอต่อไปด้วยวาทกรรมต่างๆ คำโจมตีเหล่านี้แทบไม่มีผลต่อกลุ่มปลดแอกในแง่ไหนเลย

พลเอกประยุทธ์ด่าคณะประชาชนปลดแอกหลังการชุมนุมยุติลงไม่ถึง ๑๐ ชั่วโมง แต่การโจมตีว่าประชาชนมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้นไร้น้ำหนักจนไม่มีคนสนใจจะตอบโต้ กลุ่มปลดแอกซึ่งเป็นฝ่ายตั้งรับหลังธรรมศาสตร์เสนอปฏิรูปสถาบันฯ กลายเป็นฝ่ายรุกทางการเมืองอย่างภาคภูมิ

การชุมนุมของกลุ่มปลดแอกครั้งที่สองจุดประกายให้การต่อต้านเผด็จการขยายสู่โรงเรียนมัธยม กิจกรรมชูสามนิ้วร้องเพลงชาติ-ผูกโบขาว-ถือกระดาษเปล่ายืนเฉยๆ กลายเป็นภัยคุกคามที่ครูและตำรวจไล่ล่าราวกับมุขในหนังตลก แต่ผลก็คือยิ่งนานการรวมตัวของนักเรียนมัธยมก็ยิ่งเติบโต

ด้วยข้อเท็จจริงที่เยาวชนปลดแอกถูกรัฐบาลและเครือข่าย คสช.คุกคามและดำเนินคดีอย่างหนักตั้งแต่เริ่มชุมนุมวันที่ 18 กรกฎาคม การขยายตัวของกลุ่มปลดแอกเป็นหลักฐานว่าพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือปกครองประชาชนได้อย่างที่เคยใช้หลังรัฐประหารมานาน

“ระบอบประยุทธ์” โจมตีเยาวชนปลดแอกด้วยข้อหารุนแรงจากพลเอกอภิรัชต์, สถาบันทิศทางไทย และสนธิ ลิ้มทองกุล แต่การโจมตีด้วยเรื่องชังชาติ-ล้มสถาบัน-รับเงินต่างชาติ กลับไม่สามารถสกัดการขยายตัวของประชาชนได้ทั้งที่เคยได้ผลในการปลุกระดมฆ่าคนไทยกรณี 6 ตุลา และพฤษภา 53

เครดิตข่าวโดย: มติชน
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า