สุดเศร้า พี่ชายยิงน้องชายดับ ปมมรดกไร่มันสำปะหลัง

วันนี้ (13 มี.ค. 63) พ.ต.อ.ยุทธการ โสเมือง ผกก.สภ.มัญจาคีรี อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ทำการคุมตัวนายยอดชาย ชำนาญ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายชาญศักดิ์ ชำนาญ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ จนเสียชีวิต มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในไร่มันสำปะหลัง ริมถนนสาย บ้านนางาม-โคกสูง ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากจุดแรกที่ นายยอดชาย จอดรถกระบะบริเวณริมถนนตรงข้ามไร่มันสำปะหลัง จุดต่อมาคือบริเวณไร่มันสำปะหลังของนายยอดชาย และได้ทำท่าทางขณะยืนคุมคนงานใส่ปุ๋ย ซึ่งเป็นจุดที่นายชาญศักดิ์ มายืนหาเรื่องจนกระทั่งยิงปืนต่อสู้กัน จนน้องชายเสียชีวิต จากนั้นจุดที่ 3 ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 10 เมตร เป็นจุดที่น้องชายถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งหลังก่อเหตุ นายยอดชาย ได้เดินไปดูน้องชาย เมื่อพบว่าเสียชีวิตแล้วจึงได้เดินกลับไปที่รถแล้วขับกลับไปรอมอบตัวกับตำรวจที่บ้าน

ตลอดระยะเวลาการทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกจุดนั้น ได้รับความสนใจจากชาวบ้านอย่างมาก ส่วนใหญ่ต่างขอความเห็นใจจากตำรวจให้กับนายยอดชาย เนื่องจากผู้ตายมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว และชอบทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง และในช่วงของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น นายยอดชาย บอกเพียงว่า ขอให้การทั้งหมดในชั้นศาลเท่านั้น และขอโทษแม่และคนที่รักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบสวน นายยอดชาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ถูกผู้ตายเข้ามาหาเรื่อง จากเหตุเรื่องมรดกที่ดินที่ทะเลาะกันมานาน โดยในจังหวะที่ตนยืนคุมคนงานใส่ปุ๋ยในไร่มันสำปะหลังอยู่นั้น ได้ถูกน้องชาย เดินมาต่อว่าแล้วยิงปืนเข้าใส่ 2 นัด ตนจึงได้ยิงสวนออกไป 1 นัด เพื่อป้องกันตัว แต่พลาดไปถูกศีรษะน้องชายจนเสียชีวิตคาที่

นายคำพวย ชำนาญ อายุ 72 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เล่าว่า ได้แบ่งที่ดินแปลงดังกล่าว ให้กับลูกชายทั้ง 2 คน เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว โดยแบ่งออกเป็น 2 แปลง โดยคนโตคือ นายยอดชาย แบ่งที่ดินให้ 10 ไร่ ขณะที่ผู้ตาย คือนายชาญศักดิ์ แบ่งให้ 13 ไร่ ซึ่งที่ดินทั้งหมดเป็นทีดิน สปก. โดยในการแบ่งนั้น เจ้าหน้าที่ สปก. ได้มาทำการวัดและออกเอกสารต่างๆ ให้กับลูกทั้ง 2 คน อย่างถูกต้อง ซึ่งที่ผ่าน นายชาญศักดิ์ ได้ทำกินบนที่ดินดังกล่าวมาตลอด เพราะนายยอดชาย ทำอาชีพค้าขายอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดินทางกลับบ้านก็ขอกลับมาทำไร่มันสำปะหลัง และต้องการดูแลพ่อแม่ที่แก่แล้ว

ส่วน นางประยูร ชำนาญ อายุ 63 ปี แม่ของผู้ที่ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายยอดชาย เป็นคนดี รักครอบครัว ดูแลและส่งเสียให้ที่บ้านมาตลอด ส่วนคนตายนั้น เกเรและเสพยาเสพติด จนสติไม่ดี มักจะหาเรื่องคนในครอบครัว และคนในชุมชนบ่อยครั้ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แม่และพ่อจะอยู่อย่างไร เพราะลูกคนเล็กก็ตาย ลูกคนโตก็ต้องรับโทษ จึงขอความเมตตาจากศาลฯ และเจ้านายทุกท่าน ให้นายยอดชาย ได้ประกันตัว หากต้องรับโทษก็ขอให้ได้รับโทษตามคำตัดสินที่เหมาะสม ซึ่งผลออกมาอย่างไรนั้น ครอบครัวพร้อมที่จะน้อมรับ หากชาติหน้ามีจริง ก็ขอให้ลูกทั้ง 2 ได้ไปเกิดเป็นลูกคนรวย และผู้ที่มีอันจะกิน จะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้ และขอให้ทั้งคู่อโหสิกรรมให้แก่กัน

ด้าน พ.ต.อ.ยุทธการ โสเมือง ผกก.สภ.มัญจาคีรี กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนสอบปากคำผู้ต้องหาในรายละเอียดต่างๆ รอบสุดท้าย ก่อนจะส่งตัวต่อไปที่ศาล จ.ขอนแก่น เพื่อขออำนาจศาลไปฝากขังพลัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุนั้นมีทะเบียนอย่างถูกต้อง

เครดิตข่าวโดย: อีจัน
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า