แจ้ง 2 ข้อหา อาจารย์ม.ดัง เมาขับ เอาผิดน้องสาว หากเข้าข่ายขัดขวางเจ้าพนักงาน

แจ้ง 2 ข้อหา อาจารย์ม.ดัง เมาขับ เอาผิดน้องสาว หากเข้าข่ายขัดขวางเจ้าพนักงาน เผยอาจารย์เป่าวัดแอลกอฮอล์ได้ 145 มก. ตร.ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อาจารย์ม.ดัง / เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว คลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีสาวร้องลั่น ร.ต.อ.ทำร้าย หลังขวางพาพี่ชายตรวจแอลกอฮอล์นั้น ได้รับรายงานจาก ภ.จว.สมุทรปราการ ว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว

จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ต้องหามีลักษณะคล้ายคนเมาสุรา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของสายตรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้รถของผู้ต้องหาเสียหลักไปชนกับรถยนต์ที่จอดขายน้ำ กับคนที่ยืนขายอาหารริมทาง แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ยอมลงจากรถ ไม่ยอมเรียกประกัน

ต่อมามีหญิงสาวคนหนึ่ง (อ้างว่าเป็นน้องสาวของผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เฉี่ยวชน) เข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะขับรถน้องสาวหลบหนีไป ร.ต.อ.อดุลย์ มงคลเจริญ ที่สังเกตอาการของผู้ต้องหาอยู่ตลอด เพื่อรอเชิญไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เห็นว่าผู้ต้องหาขึ้นรถของน้องสาวในตำแหน่งคนขับ ติดเครื่องยนต์พร้อมออกตัว จึงเข้าไปขัดขวางไว้ แต่น้องสาวของผู้ต้องหาก็เข้ามาขัดขวางไม่ให้ ร.ต.อ.อดุลย์เข้าไปแตะต้องพี่ชาย จนมีปากเสียงกัน จนสุดท้ายยอมไปที่โรงพยาบาล แต่ยืนยันจะเดินทางไปเอง

จึงมอบหมายให้สายตรวจนั่งไปในรถของน้องสาวผู้ต้องหาด้วย แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ผู้ต้องหากลับไม่ยอมลงจากรถ จากนั้นจึงให้ไปที่ สภ.พระประแดง เพื่อลงบันทึกประจำวัน และเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลวัดได้ 145 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินในข้อหาความผิดฐาน “เป็นผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย” กับผู้ต้องหา

ในส่วนของน้องสาวที่เข้ามาขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจว่าเข้าข่ายความผิดในการขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงานหรือไม่ หากพบว่าผิดจริง ก็จะดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้ประชาชนผู้ที่เสพข้อมูลจากสื่อหรือคลิปต่างๆ เปิดรับข้อมูลให้ครบทุกด้าน ก่อนตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อ เมื่อดูคลิปในลักษณะดังกล่าว

สำหรับคลิปที่มีการแชร์ในสื่อโซเชียลมีเดียดังกล่าว กรณีผู้หญิงที่ปรากฏในคลิป อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายนั้น สามารถมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่เกิดเหตุได้ แต่หากพฤติการณ์ที่ปรากฏดังกล่าวเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็คงจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาในทุกข้อหาความผิด และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย พร้อมกันนี้ได้กำชับให้กองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบไปถึงผู้อื่นอีกด้วย

เครดิตข่าวโดย: ข่าวสด
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า